อย่างแรก คือปัจจัยภายใน หรือ ร่างกาย
จะอ่านหนังสือให้ได้ดี ร่างกายเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ เพราะร่างกายที่ดี จะทำให้น้องๆมีสุขภาพจิตดี สมองที่ปลอดโปร่ง จะทำให้ร่างกายมีสภาพสมบูรณ์ ทำตามนี้เลย
- กินอาหารดี ไม่ไดเอ็ต
ถ้าน้องๆ กินอะไรก็ได้ง่ายๆ อย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพื่อรีบเข้าเรียน หรือไดเอตช่วงเดียวกับที่จะอ่านหนังสือเนี่ย,,, รู้รึเปล่า มันพังมาก!!!
น้องๆ ควรทานอาหารที่ให้สารอาหารและคุณประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะสมองและร่างกายคนเราต้องการสารอาหารมากกว่าที่มีในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป,,, อย่างเช่นโปรตีนและไขมันบางอย่าง ที่นอกจากจะทำให้น้องๆรู้สึกมีกำลังแล้ว และยังช่วยทำให้สมาธิและความจดจำดีขึ้น
พี่เมษ์แนะนำว่าให้น้องๆลองหาข้าวกล้อง เมล็ดธัญพืช ถั่วบางชนิดหรืออาหารที่มีโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ก็ช่วยบำรุงประสาทและช่วยให้สดชื่นได้ แล้วก็ยังมีพวกผัก ผลไม้ ที่จะทำให้น้องๆรู้สึกกระปรี้กระเปร่า อย่างผลไม้รสเปรี้ยว ผลไม้ที่มีวิตตามินซีสูง อย่าง ส้ม ฝรั่ง เลมอน ฯลฯ ผักผลไม้เหล่านี้จะทำให้น้องๆรู้สึกเฟรช เหนื่อยน้อยลง ลดความเครียดและความกังวลได้ดีเลยหละ
อ่อ แต่อย่าลืม กินให้พอดีๆ ไม่มากไม่น้อยไป เพราะกินน้อยเกินไปนะคะ เดี๋ยวจะหิวแล้วพาลไม่มีสมาธิ แต่ถ้ากินมากเกินไป หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนอีกนะจ๊ะ
- ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายนอกจากทำให้สุขภาพของน้องๆ แข็งแรงแล้ว ตลอดเวลาที่ออกกำลังกาย เลือดของน้องก็จะสูบฉีดได้ดี และสูบฉีดออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้ดีเช่นเดียวกัน ทำให้สมองได้รับเลือดและออกซิเจนอย่างเต็มที่ สมองจึงปลอดโปร่ง มีความจำดีขึ้น
- พักผ่อนให้เพียงพอ / ไม่อดนอน
การนอนไม่พอ เป็นสาเหตุใหญ่สาเหตุหนึ่งของการง่วงเลยแหละ พี่เมษ์แนะนำพยายามนอนให้ถูกเวลา เพราะร่างกายของเรามีเวลาที่เหมาะสมสำหรับการนอน นั่นก็คือช่วง 22.00 - 24.00 น. เพื่อให้ร่างกายได้เตรียมเตรียมความพร้อม โดยร่างกายจะหลั่งฮอร์โมน Melathonin ซึ่งเป็นสารที่ทำให้น้องๆรู้สึกอยากพักผ่อน หาว อยากนอน
เมื่อเราหลับไปแล้ว ร่างกายของเราก็จะเริ่มซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เซลล์ต่างๆในร่างกาย จาก Growth hormones ที่หลั่งออกมา ซึ่งช่วงที่ Growth hormones หลั่งได้ดีที่สุดก็เวลา 02.00-04.00 น.ค่ะ ,, เมื่อร่างกายของน้องๆ ได้รับการซ่อมแซมและการพักผ่อนที่เพียงพอแล้ว จะทำให้น้องๆ รู้สึกตื่นตัว พร้อมสำหรับการทำความเข้าใจหนังสือที่อยากอ่านแล้วหละค่ะ
- ให้รางวัลตัวเองนอนตื่นสายบ้าง
แน่นอนว่าทำอะไรด้วยความตั้งใจเยอะๆ มันก็มีเหนื่อยบ้าง ยิ่งถ้าน้องๆต้องตื่นมาไปโรงเรียน หรือไปเรียนพิเศษทุกเช้า มันก็มีแอบขี้เกียจกันบ้างใช่มั้ยละ 555 งั้นก็ให้รางวัลตัวเองสักหน่อยจะเป็นอะไรไป
ลองอนุญาตให้ตัวเองได้ตื่นสายสักวันนึง แต่อย่าสายจนไปเรียนนะจ๊ะ ,,, เพราะการที่เราได้ทำตามใจตัวเองบ้าง ไม่ได้ทำให้เราขี้เกียจนะ แต่จะทำให้เรามีกำลังทำวันอื่นๆ ให้ดีมากขึ้นต่างหาก ^O^
- งีบหลับสัก 10 - 15 นาที
ถ้าทำยังไงๆ ก็ยังง่วง พี่เมษ์แนะนำให้น้องๆ “นอน” ค่ะ แต่ไม่ได้ให้หลับแบบยาวนานนนะ อาจจะงีบหลับสัก 10 – 15 นาที เพื่อให้ร่างกายได้รีชาร์จสักหน่อย ให้สมองได้พักสักนิด พอตื่นขึ้นมาสมองก็จะปลอดโปร่ง ความจำดีขึ้น ที่สำคัญการที่น้องๆ ฝืนตัวไม่นอนทั้งที่ง่วงมากเนี่ย อาจจะทำให้น้องๆ เบลอ จำเนื้อหาสับสน งงไปเลยก็ได้นะ ดังนั้น ถ้าไมไหวก็งีบสักนิด ก่อนจะไปลุยกันต่อค่ะ
เราอาจจะเตรียมความพร้อมในด้านร่างกายเต็มที่แล้ว แต่อาจจะยังรู้สึกว่า “พี่ค่ะ มันไม่พอ!!! ขอให้น้องๆดูปัจจัยต่อไป นั่นก็คือ ปัจจัยอย่างที่สอง ปัจจัยภายนอก หรือ “ตัวช่วย” พี่เมษ์มาแนะนำของกินแก้ง่วงสักนิด มีอะไรที่นิยมกินแก้ง่วงกันบ้างมาดูกันเลยดีกว่าค่ะ
1. การกินวิตามิน อาหารเสริม
เป็นวัยรุ่นไม่ง่ายนะคะ เพราะต้องใช้ร่างกายซะหนัก นอนดึก อ่านหนังสือมหาโหด ข้อมูลที่อ่านก็เยอะแยะเต็มไปหมด จนร่างกายอ่อนล้า เพลีย สมองก็ล้า ,,, การกินอาหารเสริม หรือวิตามินเสริมเข้าไปก็เป็นอีกทางเลือกที่ก็น่าสนใจนะคะ เพราะต้องยอมรับว่าในแต่ละวันเราใช้ร่างกายเกินขีดจำกัดอยู่บ่อยๆ แถมบางทียังไม่สามารถเลือกทานอาหารไปบำรุงให้ร่างกายได้รับการซ่อมแซมได้ครบถ้วน ดังนั้น การเติมวิตามินหรืออาหารเสริม เพื่อทดแทนส่วนที่เราอาจจะไม่สามารถเติมเต็มได้จากการทานอาหารในแต่ละวันก็เป็นสิ่งที่ดีค่ะ ซึ่งก็มีวิตามิน และอาหารเสริมหลายชนิดที่เป็นที่นิยม เช่น วิตามินซี วิตามินบี โอเมก้า3 แป๊ะก๊วย ธาตุเหล็ก หรืออาหารเสริมอย่างโปรตีน แต่ถ้าน้องๆ จะเลือกทานวิตามิน หรืออาหารเสริมต้องเลือกสถานที่ซื้อ และปรึกษาเภสัชกรด้วยนะคะ จะได้ปลอดภัย ให้ประโยชน์ค่ะ
2. ลูกอม หมากฝรั่ง
ทั้งลูกอมรสมินต์ เปปเปอร์มินท์ รสชาติสดชื่นๆ หรือลูกอมรสผลไม้เปรี้ยวๆ ลูกอมหวานๆ และหมากฝรั่งสาระพัดชนิด หลากหลายรสชาติเนี่ยแหละตัวช่วยที่ง่ายและหลายคนใช้กัน ง่วงปุ๊บ แกะปั๊บ เข้าปาก จะอม จะเคี้ยวก็ตามสะดวก เต็มที่ค่ะ เพราะความหวาน น้ำตาล รสชาติสดชื่นๆ หรือรสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ สามารถช่วยให้น้องๆ ตาสว่าง หายง่วงได้ผลนักแหละค่ะ เลือกตามที่ชอบกันได้เลยนะ
3. ดื่มน้ำ (มันเกี่ยวมาก!!)
น้องๆรู้มั้ยค่ะ ว่าบางทีที่เราเพลีย ปวดหัว หรือเหนื่อยมากๆ เนี่ย ไม่ใช่เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือได้รับสารอาหารไม่ครบที่ร่างกายต้องการนะ แต่ “น้ำ” เป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญด้วย เพราะในร่างกายคนเราประกอบด้วยน้ำถึง 70% !!!
อาการการขาดน้ำ หรือ Dehydration จะส่งผลต่อระบบการสูบฉีดของเลือด เพราะเลือดของน้องๆที่ทานน้ำน้อยจะข้นขึ้น ทำให้ร่างกายสูบฉีดเลือดลำบาก หัวใจทำงานหนัก สมองอาจจะได้รับเลือดไปเลี้ยงลำบากขึ้น ทำให้เกิดอาการปวดหัวไงละค่ะ แล้วยังทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่กระฉับกระเฉง แถมระบบในร่างกายอย่างปอด ไต ระบบการย่อยอาหาร ฯลฯ รวน ป่วยหนักได้เลยนะ ,,, > <
4. ขนมสาระพัดชนิด
ไม่อยากง่วงต้องหาอะไรทำเพิ่มเติม ลองอ่านไปกินไปดูสิค่ะ เพลินดีนะ มารู้ตัวอีกที อุ๊ย อ่านจบละ (หรือขนมหมดหว่า ฮ่าๆๆๆ) แต่อยากจะเตือนว่า การทานขนมตอนอ่านหนังสือก็ดีอยู่หรอก ทำให้น้องเพลิดเพลิน อ่านได้เรื่อยๆ แต่ปัญหาคือ “ความอ้วน” ซี่งเป็นเอฟเฟคหลังกิน ถ้าไม่อยากอ้วน แนะนำให้หาขนมไขมันต่ำๆมาทาน ระวังเรื่องแคลอรี่ของขนมนิดนึงก็ช่วยให้เลี่ยงปัญหาโรคอ้วนที่จะตามมาได้แล้วค่ะ
5. เครื่องดื่มช่วยได้
เป็นข้อที่ทุกคนกำลังลุ้นใช่มั้ยละ แน่นอนว่า ง๊วงง่วงแบบขนาดนี้ เครื่องดื่มแก้ง่วงที่นึกถึงคงหนีไม่พ้นเครื่องดื่มผสม คาเฟอีน ใช่มั้ยละ เพราะเป็นตัวเลือกแรกสำหรับคนที่อยากให้ร่างกายตื่น
คาเฟอีกส่งผลต่อสมองโดยเข้าไปเจ้าสารคาเฟอีนที่ผสมในเครื่องดื่มเนี่ยจะเข้าไปกระตุ้นสมอง ทำให้น้องรู้สึกตื่นตัว ไม่ง่วงนอน กระปรี้กระเปร่า ดูเหมือนจะดีมากๆเลยใช่มั้ยคะแต่ผลเสียก็มีนะ เพราะอาจจะทำให้น้องๆ นอนไม่หลับ หรือนอนได้น้อยลง แถมหลับแล้วก็อาจจะหลับไม่สนิท ถ้ากินเยอะๆ จะเกิดอาหารมือสั่น รู้สึกกังวล ชัก หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือการตอบสนองของร่างกายช้าลงก็ได้นะ > _<
เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีกก็ได้แก่ กาแฟ ชา ช็อคโกแล็ต โกโก้ น้ำอัดลมประเภทโคล่า รวมทั้งเครื่องดื่มประเภทชูกำลัง ,,,ซึ่งน้องๆสามารถเลือกดื่มได้ แต่ต้องระมัดระวังด้วยนะคะ
หรือถ้าน้องๆ ไม่ชอบกินเครื่องดื่มเหล่านั้น พี่เมษ์ก็มีทางเลือกให้อีกนะ น้องๆลองหาเครื่องดื่มรสชาติหวานๆ เปรี้ยวๆ มาดื่มค่ะ เช่น น้ำหวานเย็นๆ หรือ น้ำหวานผสมโซดาซ่าๆ หรืออาจจะมาแนวสุขภาพอย่างน้ำผัก น้ำผลไม้ น้ำสมุนไพรก็เวิร์คเลยนะ เพราะรสชาติหวานๆ เปรี้ยวๆ เย็นสดชื่น ซ่าสะใจที่มาจากเครื่องดื่มพวกนี้ทำให้น้องรู้สึกสดชื่นขึ้น สามารถอ่านหนังสือต่อได้แน่นอน แต่พี่เมษ์มีทริคจะบอกว่า อย่ากินน้ำหวานที่หวานมากๆ เพราะแทนที่จะสดชื่น อาจจะง่วงกว่าเดิม เพราะเครื่องดื่มรสหวาน หรือของหวานเกินไปนั้น “น้ำตาล” จะทำให้ง่วงนอนเพราะเข้าไปแย่งวินามินบีไปจากร่างกายของเรา ซึ่งการที่ร่างกายขาดแคลนวิตามินบีจะทำให้รู้สึกหมดแรง และรู้สึกง่วงนะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น